10-16/7/2560 OKINAWA TRIP (15/7/2560 Shuri Castle - Shuri Ryusen - Ishidatami Cafe' Madama)
วันที่ 6 ณ โอกินาว่า
เวลาผ่านไปโคตรเร็วววว
อีกวันเดียวจะกลับซะละ
วันนี้เหมยแพลนว่าไปปราสาทชูริ
แต่ว่าวันที่เหมยไปด้านนอกเค้าทาแลคเกอร์ลงสีใหม่
ก็เลยอาจไม่ค่อยสวย แต่ภายในยังเข้าได้อยู่ปกตินะจ๊ะ
แล้ววันนี้ก็มีเพื่อนจากสิงคโปร์มาร่วมแจมทริปช่วงเช้าด้วย
ไปดูกันเลยว่าปราสาทเป็นยังไง
การเดินทางไปปราสาทชูริก็ง่ายแสนง่าย
ไม่ต้องรถบัส นั่งรถไฟฟ้าได้
พึ่งมารู้สึกว่าได้นั่งรถไฟฟ้าญี่ปุ่นวันแรกก็อยู่มา 6 วันละ 5555
ตั๋วก็ออกมาหน้าตาแบบนี้
แต่ตั๋วที่นี่ใช้สแกนตรงตัวสแกนนะ แปะลงไปแล้วก็เดินผ่านได้เลย
ตอนแรกก็ยืนงง หารูหยอด จนพนักงานเดินมาบอกว่าแปะๆ ได้เลย 5555
และแล้วก็ถึงปราสาทชูริ
และนี่คือผู้ร่วมทริปวันนี้ Pei Xi
มาจากสิงคโปร์ เหมยเจอกันที่ที่ Hostel ประมาณวันที่ 2
แล้วก็คุยๆ กัน จน Pei Xi บอกว่าเดี๋ยววันที่เหมยมาปราสาทชูริจะมาแจมด้วย
มองวิวกันเตอะ
แล้วก็ซื้อตั๋วกันราคา 820 เยน
เข้าดูภายในปราสาทได้
ซึ่งปราสาทที่นี่บูรณะซ่อมแซมใหม่ให้ได้แบบเดิมหลังจากถูกเผาในช่วงสงคราม
และทางเข้าปราสาทก็อยู่ตรงนี้
เสียดายจริงๆ ถ้าไม่ทาแลคเกอร์วันไปคงสวยมากๆ
ส่วนรูปนี้คือบัลลังค์ของจักรพรรดิ์ เป็นจุดเดียวที่สามารถถ่ายรูปได้
เพราะจุดอื่นๆ ส่วนมากไม่ให้ถ่ายเลย
หลังจากออกมาจากภายในปราสาทแล้ว
ก็จะมีจุดให้ซื้อของ ให้อ่านประวัติต่างๆ
แล้วก็จะมีแผ่นป้ายเป็นเหมือนถาม - ตอบ ให้เราเปิดอ่าน
ถึงประวัติของที่นี่
หลังจากนั้นเหมย กับ Pei Xi ก็ตระเวนดูไปรอบๆ
แล้วก็ถามกันว่าจะเดินไปตรงไหนดี
เอาตรงไหนบ้าง
แถมเหมยพาหลงอีก
สุดท้ายให้ Pei Xi นำดีกว่า 555
แล้วก็ได้มาเจอจุดชมวิวตรงนี้
จำชื่อไม่ได้ละ 5555
ตั้งกล้องถ่ายคู่กันหน่อยเนอะ อิอิ
หลังจากนั้นก็คุยกันว่า ไปหาของหวานกินกัน เพราะอากาศร้อนสุดๆ
เลยเลือกน้ำแข็งใสถั่วแดง มาแบ่งกัน
แล้ว Pei Xi ก็ขอแยกตัวกลับก่อน เพราะต้องบินกลับวันนี้แล้ว
Bye Bye Pei Xi
Nice To Meet You
และด้านล่างคือภาพถ่ายจากกล้อง Pei Xi
ขอบคุณนะ ชอบมากเลย
หลังจากนั้นเหมยก็ไป Shuri Ryusen
เป็นที่เพ้นท์สี โดยใช้หินประการังรองด้านล่าง
แล้วลงสี
เดินมาจากปราสาทชูริได้เลย ไม่ไกลมาก
บรรยากาศ ที่เพ้นท์กระเป๋า
ที่จริงมีให้เลือกหลายอย่างมากเลย แต่เหมยเลือกเป็นกระเป๋า
ราคา 3,240 เยน
หินประการังและกระเป๋าที่จะเพ้นท์
คลิปตอนที่พี่พนักงานมาสอนและตอนที่เหมยทำเอง
เสร็จแล้วเหมยทำเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งนึงเป็น ท้องทะเลปลา 555
อีกฝั่งเป็นสัญลักษณ์ของโอกินาว่า
รองเท้าญี่ปุ่นมากๆ แต่ถุงเท้าเหมยก็ฟรุ้งฟริ้งมากเช่นกัน
และกระเป๋าก็เสร็จ เตรียมตัวออกมาหาขนมกินกันเถอะ
และร้านที่เหมยจะไปชื่อว่า
ISHIDATAMI CAFE' MADAMA
เหมยเปิดจากหนังสือเอา เค้าบอกว่าร้านนี้จะเห็นวิวเมือง นะฮะ
ไปเดินทางกันเลย
และด้านล่างก็คือบรรยากาศทางเดินไปร้าน
มีความเป็นป่า เดินหลงๆ งงๆ ที่จริงซอยแรกที่เหมยเข้า
เดินไปถึงร้านได้
แต่ต้องลงบรรได แต่เหมยงงมาก เลยเดินกลับมาใหม่
แล้วเข้าอีกทาง
จนมาถึงร้าน
แรกเริ่มสั่งก่อนเลย หิวมาก
สั่งเป็นไอศกรีม วานิลลา แล้วก็มีไซรัป พร้อมด้วยคอนเฟล็กและน้ำตาลสีน้ำตาล(อร่อยมาก)
กินแล้วโคตรฟินบอกเลยว่าอร่อยจริง
จำราคาไม่ได้ แต่สั่งรวมกับกาแฟรวมกันแล้ว 1,000 เยนถ้วน
และนี่ก็คือกาแฟ
วิวงามจริงๆ ชอบๆ
แล้วนี่ก็คือของที่ให้ทางร้านให้มากินฟรี
ดีงามมากกก
ร้านนี้เปิดเวลา สิบโมงเช้า ปิดห้าโมงเย็นนะจ๊ะ
หลังจากนั้นเหมยก็เดินทางกลับไปปราสาทชูริอีกครั้ง
เพื่อไปรอถ่ายปราสาทตอนกลางคืน
เพราะในหนังสือบอกว่ามันจะสวย
แล้วก็เดินหลงๆ วนๆ ไปๆ มาๆ
ไปเจอวิวอีกที่นึง
โอ๊ยสวยๆ งามมาก
มีเพื่อนมาถ่ายด้วย 5555
หลังจากนั้นก็เข้าไปในปราสาทอีกที
ตอนแรกเหมยนึกว่าต้องถ่ายในปราสาทแต่ไม่ใช่
ต้องออกมาถ่ายรอบนอก
เพราะแสงเปิดตอนเย็นจะสาดเข้าไปตรงปราสาทแล้วจะสวยมาก
แต่ระหว่างรอนั้นฝนก็ตกลงมา
เหมยเลยต้องไปรอที่กินขนมตอนแรกเพื่อหลบฝน
แต่ฝนตกไม่ใช่เรื่องแย่
เพราะได้เห็น รุ้ง ที่ญี่ปุ่นนะจ๊ะ
สวยยย
หลังจากนั่งรอซักพัก
หิวอีกละ เลยหยิบป๊อกกี้ที่ซื้อเมื่อวานมากิน
ป๊อกกี้มันม่วง
แพงด้วยกล่องนึง 300 กว่าเยน 5555
ตามด้วยน้ำ รสนี้อร่อยย ชอบบบ
เปรี้ยว ซ่าๆ ขวดนี้น่าจะ 160 เยน
แถมไม่พอตรงห้องรออาหารมีวิวพระอาทิตย์ตก
โอ๊ย โคตรโชคดี เป็นวันที่ดีดีจริงๆเลยวันนี้
หลังจากนั้นพอฟ้าเริ่มครึ้มก็วิ่งๆ หามุม
จะเอามุมไหนดีวะ วิ่งจนรอบก็หามุมไม่ได้
หาได้ประมาณทีถ่ายมา
แล้วมานึกได้ตอนที่ดึกมากแล้วว่า
มันมีที่จอดรถนี่หว่า ถ้ามุมนั้นต้องดีมากแน่เลย
แต่ดึกมากแล้วไม่สามารถไปที่จอดรถได้แล้ว
เลยอดไป เลยได้มาประมาณนี้
เหมยอยู่จนกระทั่ง 2 ทุ่มกว่าๆ ได้เลยมั้ง
แล้วก็รีบจ้ำกลับไปที่รถไฟ
คนแทบไม่มีเลย 5555
หลังจากนั้นก็กลับมาอาบน้ำซักผ้า
แล้วออกมาซื้อข้าวที่ Family Mart
วันนี้เลือกเป็นแกงกะหรี่ กับ กาแฟ
มื้อนี้หมด 678 เยน
ข้าว 498 กาแฟ 180
ตามด้วยไอศกรีมอีกแท่ง 555
ไอศกรีมรสมะม่วง ซื้อจาก Lawson อร่อย
ราคา 248 เยน
แล้วตอนกลางคืนนั่งแพ็คกระเป๋าอยากกินอะไรซ่าๆ
เลยกดจากตู้กดน้ำที่ที่ Hostel เลย
เปรี้ยวๆ ซ่าๆ สดชื่น ราคา 130 เยน
หมดไปแล้วกับวันที่ 6 ก่อนกลับไทยพรุ่งนี้
เวลาผ่านไปเร็วมากกก
ติดตามวันสุดท้ายได้เลยว่าเหมยจะไปไหนอีก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น