12-16/8/2561 ทริปพาแม่ไปฮาโกดาเตะ (ญี่ปุ่น) กับ กล้องฟิล์ม

ฮัลโหลลลลล สวัสดีกับทริปใหม่
ทริปนี้จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกแล้ว แต่ คนละเมืองกับที่เคยไปเน้อ
และเมืองที่จะไปวันนี้คือ Hakodate อยู่ Sapporo เหนือสุดของญี่ปุ่น !!
แล้วทริปนี้เปิดตัวกล้องฟิล์มตัวใหม่ ที่ไฉไลสุดๆ กันเลย
Nikon FE กับ Lens 28 mm.


สายการบินสำหรับทริปนี้คือ Air Asia
ที่บินตรงทีเดียวถึงเลยแต่ถึงบินตรงก็นั่งจนเมื่อยก้น เกือบ 7 ชั่วโมง

ถ่ายรูป คุณ จินดา สักหน่อย
เบลอกันไปกับภาพแรก


หลังจากนั่ง หลับๆ ตื่นๆ เครื่องบินตกหลุมอากาศรัวๆ
และแล้วก็มาถึง สนามบิน ชิโตะเสะ !!!




หลังจากถึงสนามบิน เหมยไปแลก JR PASS เพื่อจะนั่งรถไฟไป ฮาโกดาเตะ
สำหรับทริปนี้เหมยใช้ HOKKAIDO RAIL PASS 3 DAYS

ส่วนที่แลก JR อยู่ชั้นล่างสุดเลย ฝั่ง Domestic

ตอนแลก JR เสร็จ เหมยก็แจ้งพนักงานว่าจะไปไหน
พนักงานจะมีรายละเอียดตารางรถไฟในการเดินทางให้เราพร้อมเวลา
แล้วก็ สำหรับ PASS HOKKAIDO สามารถจองที่นั่งได้ไม่เสียเงินเพิ่มนะ
แนะนำให้จองที่นั่งไปเลย เพื่อความสะดวกสบาย

หลังจากแลกเสร็จ เหมยแวะกินข้าวที่ Food Court สนามบินเลย
เพราะ ต้องนั่งรถไฟไป HAKODATE อีก 3 ชั่วโมงนิดๆ

ระหว่างรอรถไฟ


โผล่ขึ้นมาอีกสถานี เพื่อเปลี่ยนสายแล้วนั่งยาว ๆ ไป Hakodate กันเลย


ตอนนั่งไป สัก ครึ่งชั่วโมงแรก ยังคึกๆ คักๆ


ผ่านไปสักพัก หลับสนิิทเลย !!


อีกคนด้านหลัง เจ๊สุ คอพับคอเหวี่ยงไปแล้ว !!


และในที่สุด ก็ถึงแล้ว นั่งกันไป 3 ชั่วโมงนิดๆ
และนี่คือรถไฟที่มาส่งถึง Hakodate
ทุกคนถ่ายรูปเก็บกันไว้เป็นที่ระลึก !!!


สถานี Hakodate Station




หลังจากนั้นก็เดินไปที่พัก
ครั้งนี้เหมยพักที่ "Capsule Hotel Hakodate"
เป็น Hostel แต่เหมยเลือกเป็นห้องที่นอนเป็นคู่ๆ และใช้ห้องน้ำร่วมกันอย่างเดียว
ที่พักที่นี่โอเคมากๆ บริการดี สะอาด ของใช้ในห้องน้ำครบครัน
ถ้าเดินจากสถานี Hakodate Staion เลย ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
แต่ถ้านั่งรถราง ลงสถานี Shinkawa-Cho จะถึงหน้าที่พักเลย


ห้องนอน ของฝั่งห้องเหมยเป็นเตียงชั้นล่าง และนอนคนเดียว


ส่วนอีกห้อง แม่นอน กับ เจ๊สุ มีสองเตียง


หลังจากเก็บกระเป๋าทุกอย่างแล้ว
แม่บอกว่า "แม่ไม่ไหว" ขอนอนพักก่อน
เหมยกับเจ๊เลยออกไปสำรวจสถานที่ก่อนว่ามีอะไรบ้างที่นี่

และนี่คือรถรางน่ารัก มีหลายลายเลย


สถานี ที่รอรถราง


เหมยกับเจ๊สุ เดินกันจนกลับมาถึง สถานี Hakodate เพราะจะหาตลาดปลาตอนเช้า
จะพาแม่มากินพรุ่งนี้
แล้วก็เดินเลาะๆ กันไปเรื่อยๆ
และก็ไปเดินจนถึง อนุสรณ์เรือเฟอรี่เซคัง "มาชุ-มารุ"





อนุสรณ์ที่นี่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เข้าไปดูด้านในได้
แต่ตอนเหมยไป เหมยไม่รู้ แล้วก็เย็นแล้วด้วย
เลยไม่ได้เข้าไป ถ่ายแต่ด้านนอกอย่างเดียว





หลังจากท่าเรือ เหมยเดินไปถึง โกดังอิฐแดงคาเนโมริ
แต่ไปถึงมันค่อนข้างมืดแล้ว เลยไม่ได้ใช้กล้องฟิล์มถ่าย เอาดิจิตอลถ่ายแทน


หลังจากนั้นก็กลับมาพักผ่อน เพื่อเตรียมออกเดินทางเที่ยววันพรุ่งนี้

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ แพลนก็คือจะไป Goryokaku
หรือเรียกว่า ป้อมปราการรูปดาว

การเดินทางไปที่นี่ป้อมนี้
ใช้รถรางไปลงสถานี Goryokaku Staion และเดินอีก 13 นาที




ถ่ายแม่บนรถราง ทำไมแม่หน้าเบลอ แต่ทุกอย่างชัด 5555


ระหว่างเดินไป Goryokaku (หอคอยโกเรียวคาคุ)


และในที่สุดก็ถึง มีค่าโดยสารสำหรับขึ้นมาบนหอคอย 900 เยน/คน
วิวด้านบนเราก็จะเห็นป้อมดาวแบบนี้เลย !!


วิวด้านบน !!




มีช่องให้มองลงไป เสียวขานิดๆ อิอิ !!


หลังจากถ่ายรูปรัวๆ ซื้อของที่ระลึกเสร็จก็กลับมาลงด้านล่าง


ด้านล่างจะมีร้านค้าให้เลือกซื้อของกิน
และที่แนะนำให้กินคือ เมล่อน มันหวานมาก หวานสุด หวานโคตรๆ
ฉ่ำมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!
แนะนำว่ามาแล้วควรกินนะจ๊ะ


ความฟินของคุณจินดา !!





หลังจากกินเสร็จก็เดินออกมาสวนสาธารณะ โกเรียวคาคุ




วันที่เหมยไป อากาศครึ้มทุกวัน ฝนตก ครึ้มๆ ตลอด












ด้านในสวนสาธารณะ มีสำงานการปกครองฮาโกดาเตะด้วย
แต่เหมยไม่ได้เข้าไปนะ



ให้แม่ถ่ายรูปคู่หน่อย ว่ามาละ แต่ไม่ได้เข้า ^^"


ตั้งกล้องถ่ายรูปรวมครอบครัว น่ารัก !!


หลังจากนั้นก็กลับมาตลาดปลา Morning Market Hakodate
ตลาดปลาจะปิด ประมาณบ่าย 3 นะ
ร้านที่เหมยกินเหมยจำไม่ได้ว่าร้านไหนอ่ะ
เห็นน่ากินก็เลยเลือกร้านนี้


สั่่งมา 5 เมนู แต่ไม่ได้ถ่ายทุกเมนู
ถ่ายมาบางเมนู
แต่บอกเลยว่า อร่อย สด ควรค่าแก่การกินฮะ !!!


สลัด อร่อย ทุกอย่างสด มากกกกกกก


ความฟินของคุณจินดา อร่อยยยยย


หลังจากกินเสร็จ ฝนก็ตกกลงมาไม่หยุด
ตอนแรกคิดว่าแพลนล่มแน่นอน ไปไหนไม่ได้แน่ๆ
แต่สุดท้ายฝนก็หยุด
ก็เลยรีบทำตามแพลนเดิมคือไป จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ


ระหว่างเดินไป เพื่อจะขึ้น Ropeway มีแต่หมอกปกคลุมไปหมด




ระหว่างทางเดินขึ้นไป Ropeway








และก็มาถึงที่ Ropeway ที่นี่มี สถานี FM ด้วย


ค่าขึ้น Ropeway 1,280 เยน/คน สำหรับไปกลับ




วิวระหว่างขึ้น Ropeway


และแล้วก็มาถึงฮะ !!


เค้าบอกจะเห็นวิวภูเขาฮาโกดาเตะใช่ไหม
แต่อยู่ไหนว๊า 55555555 !!!
วันที่ขึ้นหมอกกระจาย
แต่ก่อนขึ้น พนักงานบอกแล้วแหละว่าจะไม่เห็นอะไรนะ
แต่ไหนๆ ก็มากันแล้วก็เลยขึ้นกัน




หลังจากดูวิวข้างบนพักนึงก็นั่ง Ropeway ลงมาเพื่อจะไป
ถ่ายรูปที่ เนินถนนโมโตะมาจิ
แต่ก่อนไปถึงตรงนั้น เหมยแวะถ่าย โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาชิมาด้วยที่นึง
แต่โบส์อื่นๆ เหมยไม่ได้แวะถ่ายเลย เพราะฝนฟ้าไม่เป็นใจ กลัวจะตกลงมาแล้ววิ่งไม่ทัน

สำหรับแพลนของวันนี้เหมยอิงจากเว็บนี้นะ

ด้านล่าง โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาชิ


และก็ถึงเนินถนน โมโตะมาจิ
กว่าจะได้แต่ละรูปบอกเลยว่ายากมาก
เพราะต้องวิ่งหลบรถตลอด
แถมเหมยใช้กล้องฟิล์มอีก ต้องหมุนกว่าเลน์จะชัด
วิ่งกันไป วิ่งกันมา แต่พอล้างฟิล์มออกมา
โอ๊ยปลื้มปริ่มมมมมมมมม !!


แม่ถ่ายด้วย !!


และระหว่างถ่ายรูปตรงเนินถนนนี้ เอ๊าาาาาาา ฟิล์มหมดม้วน
ต้องเปลี่ยนฟิล์มก่อน
และนี่คือหัวม้วนสำหรับม้วนใหม่ อิอิ


ระหว่างเดินลงจากเนินถนนโมโตะมาจิ




แม่เดินลงมารอ เหมยด้านล่าง !!




หลังจากเดินเสร็จ
แพลนที่่ขาดไม่ได้ เค้าว่ากันว่าต้องกินเมื่อมาถึงที่ ฮาโกะดาเตะ
นั่นก็คือร้าน ลัคกี้เปียโรต์
เป็นร้านฟาสฟู้ดท้องถิ่นของที่นี่


ตอนแรกก็สั่งแค่ไอศกรีมมากินกันก่อนหน้าร้าน
ผลสรุปคืออร่อยยยยยยย


ก็เลยตกลงปลงใจเข้าร้าน
สั่งกระหน่ำ ทั้งข้าวไก่ทอดแกงกะหรี่ เบอร์เกอร์
บอกเลยว่าเด็ดดวงอร่อยทุกอย่าง !!


 และเบิ้ลไอศกรีมกันอีกรอบ 5555
ไอศกรีม ขอ แนะนำ เลย ควรค่าแก่การกินฮะ
มันละมุน นุ่ม ละลาย ฟิน สุดๆ !!


หลังจากกินเสร็จก็จะเดินทางกลับที่พัก
แต่ก่อนกลัับแวะให้แม่ให้ถ่าย โกดังอิฐแดงคาเนโมริ 1 รูป
ว่ามาถึงละนะ

อ้อ สำหรับ โกดังอิฐแดง เหมือน เอเชียทีคบ้านเราเลย จบ !! 5555


หลังจากกลับที่พักก็แพ็คกระเป๋าเก็บของ
เพราะพรุ่งนี้จะเดินทางกลับ Sapporo แล้ว

ภาพด้านล่างเหมยถ่ายระหว่างนั่งรถไฟกลับ Sapporo


แพลนวันนี้หลังจากถึง Sapporo ก็ว่าจะพาแม่ไปดูดอกไม้
ที่ Yurigahara เพราะทริปนี้จองสั้นมาก ทำให้ไป Furano ไม่ทัน




แต่พอมาถึงสถานี โอ๊ะ โอว เหมือนสถานีร้าง


แถม ฝนก็ตกไม่ขาดสาย
เหมยกับเจ๊สุ เลยวิ่งไปดูก่อนว่ามีดอกไม้ไหม
สรุปว่า ไม่มีดอกไม้ ดอกไม้ตายหมดเลย เพราะฝนตกตลอด

วันนี้แม่แต่งตัวสวยเก้อเลย


ให้ถ่ายคู่กับสถานีแทนดอกไม้ละกันเนอะ


หลังจากนั้นก็เลยเดินทางกลับ Sapporo
เพื่อไปหาอะไรกิน
และแล้วก็เจอร้านนึง เป็นบุฟเฟ่ต์สเต็ก ชื่อร้าน "BEEF RUSH"


ขอให้แคปชั่นร้านนี้ว่า
#ถ้าอยากเมื่อยกามให้คุณมาลอง
#คุณจะเจอเนื้อเหนียวหนึบเคี้ยวปวดกามเบาๆ
#แถมผลไม้ที่ทั้งขมและเปรี้ยว

สรุปรวมๆ คือไม่ประทับใจกับร้านนี้เลย เสียดายเงินมากกกกก !!


ถ่ายรูปแม่ก่อนกิน ตอนนั้นยังไม่รู้รสชาติกัน 555


หลังจากกินเสร็จก็เดินช็อปปิ้งที่สถานี ซัปโปโร
เพราะฝนตกตลอดไปไหนไม่ได้
จนกระทั่งเย็นก็เดินทางกลับที่พักกัน

ที่พักวันสุดท้ายก่อนกลับ ชื่อ "Air Hostel LCC" อยู่สถานี Chitose Staion
เหมยไม่ได้ถ่ายหน้าที่พักเลย เพราะฝนตกตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเช้าก็ยังตก


แต่ที่พักที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
มีห้องครัวให้ทำอาหาร


ส่วนตอนเช้า มีขนมปัง ให้ปิ้งทานได้ ไม่เสียเงินเพิ่ม
ที่จริงมีไข่ให้เราต้มกินได้ด้วยนะ แต่ไฟลท์เหมยออกเช้าเลยไม่ได้ต้ม


ข้างๆ ที่พักมีสถานีรถบัส ที่นั่งไปสนามบินเลย สบายยยย
ในรูปนี้คือเหมยเอากระเป๋าไปตากฝนไว้เพื่อจองที่ แล้ววิ่งมาหลบ
แต่ผลสุดท้าย คือตรงที่วางกระเป๋าไม่ใช่แถวเค้าอยู่ดี 555


หลังจากถึงสนามบินก็เช็คอินแล้วก็ซื้อของฝากพวกช็อคโกแล็ต
ตลกรูปนี้ตอนถ่ายคือ เหมือนตุ๊กตาโดนกักขัง
แต่จริงๆ ตรงตาข่ายจะยกขึ้่นช่วง 10 โมง ให้เข้าไปเล่นได้


ระหว่างที่รอขึ้นเครื่อง ก็ต้องกินล่ะเนอะ
เพราะขากลับนั่งอีกยาวๆ กินตุนก่อน
และนี่คือที่สั่งตรง Food Court ที่สนามบิน
ซูชิ อร่อยยยยย !!!






หลังจากนั้นก็รอขึ้นเครื่องกัน
ดีเลย์ไปประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้


ถ่ายแม่เบลออีกละ ขากลับก็ยังเบลอจนได้ 5555


ปิดท้ายกับ ฟิล์มที่ใช้ไปทริปนี้ จริงๆ ใช้ไป 2 ม้วนนิดๆ


I'm Photograher !!


บ๊ายบายกับทริปนี้ ไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรเยอะ
แต่ถ้าสงสัยตรงไหน ทักมาถามได้เลยนะจ๊ะ

Page Facebook : DIARY OF MAYRIN
Scan & Dev Film : Lert's

Film : Fuji Color C 200
Kodak Gold 200
Kodak Color Plus 200

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาว (별) Pause

27/4/2559 พระอาทิตย์ขึ้น ณ ชายหาด ชะอำ เพชรบุรี

첫번째 Topik 1시험을 보는 경험 .. ประสบการณ์สอบ Topik 1 ครั้งแรก